top10
10 ตำนานสถานที่เฮี้ยน ใจกลางกรุง

10 ตำนานสถานที่เฮี้ยน ใจกลางกรุง

10 ตำนานสถานที่เฮี้ยน ใจกลางกรุงขึ้นชื่อว่าสถานที่ผีเฮี้ยนก็คงจะมีทั้งคนที่อยากไปลอง และ คนที่ไม่อยากไปเราได้รวบรวม 10 สถานที่ผีเฮี้ยนในกรุงเทพฯ และ สถานที่ใกล้เคียงที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความเฮี้ยนมาให้ฟังอันดับที่ 1-10 ที่เราไปสืบค้นมามีที่ไหนบ้างจะตรงใจกับที่เพื่อน ๆ คิด หรือ เคยไปบ้างหรือไม่เรามาเริ่มจาก

นำเสนอข้อมูลโดย : https://storytop10.com/

บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ในซอยวัชรพล ตำนานสถานที่เฮี้ยน

อันดับที่ 10 บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ในซอยวัชรพล

อันดับที่ 10 ในซอยวัชรพลเป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างแม่แล้วเสร็จถูกทิ้งร้างค้างคาอยู่ในสภาพเดิมเวลากลางคืนดูน่ากลัวชวนขนลุกยิ่งแล้วว่ากันว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิง และ เด็กปรากฏว่าอยู่บ่อย ๆ สาเหตุที่บ้านหรูหลังใหญ่กลายเป็นบ้านร้างเนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้ถ้าครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด และ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหมดทุกคนว่าแต่จะเขียนขนาดไหนไว้ชาวเรื่องเล่าจะไปหามาเล่าให้ฟังส่วนอีกสถานที่หนึ่งคือที่หมู่บ้านปิยะพร ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ในซอยวัชรพลเขตคันนายาวกรุงเทพฯผู้เฒ่าผู้แก่ในย่านนี้บอกว่าพื้นที่ก่อสร้างหมู่บ้านเคยเป็นป่าช้าเก่าเจ้าของโครงการไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเมื่อเริ่มก่อสร้างจึงพบกับอุปสรรคต่าง ๆ เช่น คนงานตายเด็กตกบึงน้ำตาย สุดท้ายโครงการก็ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้าจนต้องเลิกโครงการ และ ปล่อยทิ้งไว้ท่ามกลางเสียงร่ำลือว่าหากใครเข้าไปในบริเวณหมู่บ้านในยามค่ำคืนจะถูกพูดผิดตามหลอกหลอนจนขนหัวลุกในหมู่บ้านร้างแห่งนี้เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบพิสูจน์เรื่องผีบรรยากาศค่อนข้างเงียบแต่ไม่ถึงกับน่ากลัวสภาพหมู่บ้านที่ถูกปล่อยร้านเกือบ 10 ล้านมีต้นไม้ใบหญ้าปกคลุมแต่ภายในสามารถใช้บางแบบหลบฝนได้เคยมีบทสัมภาษณ์ผู้ที่ต้องใช้เส้นทางผ่านหมู่บ้านแห่งนี้เป็นประจำเปิดเผยว่าหมู่บ้านร้างแห่งนี้มีการร่ำลือกันว่ามีผีดุแต่ตนไม่เคยพบเหตุการณ์กับตัวเองมาก่อนแม้จะเดินผ่านหมู่บ้านนี้เป็นประจำแต่เห็นว่า ทุกคืนวันศุกร์ และ เสาร์ช่วงดึก ๆ มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปตั้งวงกินเหล้าส่งเสียงเอะอะโวยวายเป็นประจำตำรวจก็มีการตั้งด่านที่ปากซอยทางเข้าหมู่บ้านอยู่บ่อย ๆ เพราะบริเวณนี้ค่อนข้างเปลี่ยวมีปัญหาอาชญากรรมขึ้นบ่อยครั้ง

โรงงานร้างในอุตสาหกรรมบางปู

อันดับที่ 9 โรงงานร้างในอุตสาหกรรมบางปู

อันดับที่ 9 โรงงานร้างในอุตสาหกรรมบางปูฝั่งเดียวกับเมืองโบราณสถานที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำรองเท้าขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดีได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงคือเครื่องปั๊มลมเกิดระเบิดคนงานหลายคนเสียชีวิตสยองหลังจากนั้น ก็เกิดเรื่องเล่าว่ามีผู้พบเห็นวิญญาณ หรือ ได้ยินเสียงแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมายทำให้พนักงานที่เหลือไม่กล้าทำงานต่อทยอยกันลาออกไปเรื่อย ๆ กิจการย่ำแย่ลงจนสุดท้ายเจ้าของโรงงานธนวิจิตรไม่ไหวตัดสินใจยิงตัวตายในห้องทำงาน ซึ่งอยู่ด้านบนของโรงงานนั่นเอง ว่ากันว่าหลังจากนั้น ที่นี่ก็กลายเป็นโรงงานร้างเคยมีคนเข้าไปทดสอบความกล้าท้าทายความกลัวอยู่บ่อยครั้ง และ เกิดเสียงร่ำลือถึงความดุเฮียนของวิญญาณที่อยู่ณที่แห่งนี้จนได้รับการยกให้ติด 1 ใน 10 ที่สุดเฮี้ยนกลางกรุงปัจจุบันหากเข้าไปดูใกล้ ๆ จะพบเศษรองเท้ากระจายอยู่เกลื่อน และ ปั๊มลมมรณะที่ยังคงอยู่ภายในโรงงานนั่นเอง

วัดประสาทจังหวัดนนทบุรี

อันดับที่ 8 วัดประสาทจังหวัดนนทบุรี

อันดับที่ 8 วัดประสาทจังหวัดนนทบุรีเป็นวัดเก่าแก่โบราณสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลางอันที่จริงวัดที่เป็นสถานที่รวมพระพุทธรูป และ พระสงฆ์แต่กลับกลายมาเป็นสถานที่ที่เป็นเจ้าของเรื่องราวของความเพียรภูตผีวิญญาณมากมาย โดยมีเรื่องเล่าหิน ๆ ภายในวัดประสาทนี้มากมายได้แก่

1 ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองเฮี้ยนก่อนวันที่ 16 และ วันที่ 1 ของทุกเดือนจะมีผู้คนมาขอเลขเด็ดกับเจ้าแม่ตะเคียนชาวบ้านส่วนใหญ่เล่าว่า ช่วงโพล้เพล้ หรือ ช่วงหัวค่ำ เวลาเดินผ่านศาลมักจะเห็นเป็นผู้หญิงแต่งชุดไทยยืนอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับศาลบ้างก็ว่าชาวบ้านเดินผ่านศาล และ มองเข้าไปพบเห็นเป็นกลุ่มควันที่ลอยออกมาจากต้นตะเคียนเมื่อเพ่งมองดูกลับเห็นเป็นใบหน้าของผู้หญิงลอยออกมา

2 ตำนานศาลพระนางอุษาวดีเทวีเรื่องเล่าของคนโบราณบอกว่าเดิมทีก่อนจะสร้างสรรค์แห่งนี้ขึ้นมาเคยมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบ ๆ วัดฝันถึงแม่นั่งคนนึงหน้าตาปากสวยพอมีคนฝันค้นเจอกันบ่อย ๆ จะเรียกผู้หญิงคนนั้น ว่าแม่นางคนสวยแต่พอไปสืบประวัติดูก็เข้าใจได้ว่าผู้หญิงคนนั้น ท่านน่าจะเป็นชายา หรือ สนมของพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้มาก่อน โดยเมื่อก่อนเรือของท่านจะตั้งอยู่ทางด้านหลังวัดไม่ทราบดังนั้น ชาวบ้านที่เชื่อ และ ศรัทธาจึงช่วยกันตั้งสัตว์ขึ้นแล้วให้ชื่อว่าศาลเจ้าอุษาวดีเทวี โดยบริเวณที่ตั้งศาลบรรยากาศจะวังเวง และ น่ากลัวมากมีคนเล่าว่าบางคืนมีคนเห็นเจ้าแม่ออกมาเดินไปเดินมาตรงบริเวณแถว ๆ นั้น หรือ ใครที่ผ่านวัดมาไม่เคยรู้เรื่องราวของที่นี่มาก่อนเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับศาลจึงคิดว่าเขามาทายาก็เลยไม่ได้สนใจอะไรเป็นเจ้าแม่อุษาวดีเทวีก็ถึงกับขนหัวลุกเลยทีเดียวนอกจากนี้ที่ผ่านมายังเคยมีคนเล่าว่าหากมีใครไปแสดงกิริยาวาจาจากช่วงอยากขายไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่ก็มักจะพบกับเหตุการณ์แปลก ๆ เจอสิ่งลี้ลับหนักเบาไม่เท่ากันจนผู้ที่ไปลบหลู่ต้องกลับมาขอขมาพร้อมธูปเทียนอยู่เสมอ

3 ศาลาเก็บศพโบราณหากใครเคยไปวัดปราสาทจะเห็นกุฏิไม้ และ ศาลาเก่า ๆ สภาพถูกพังอยู่หลายหลังที่ปลูกเป็นศาลาไม้ไว้หลังนึง ซึ่งเดิมทีทางวัดตั้งใจจะบูรณะใหม่มาเป็นศาลาให้พระ และ ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์แต่ปรากฏว่าก่อสร้างยังไงก็ไม่เสร็จ เพราะมักจะเกิดเหตุขัดขวางอยู่เสมอว่ากันว่าบางทีอาจจะเป็น เพราะอาถรรพ์ของศาลาเก่าแห่งนี้ก็ได้

4 กุฏิร้อนมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับรักที่เคยมาเสียชีวิตที่วัดแห่งนี้แต่ข้อมูลไม่แน่ชัดว่าท่านเจ็บป่วยจนมรณภาพ หรือ ว่าผูกคอตายกันแน่แต่วิญญาณของพระสงฆ์ไม่ว่าจะเป็นเหล่าพระเณรที่อยู่ร่วมวัด หรือ ชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ที่ต่างเคยพบเจอวิญญาณของผู้ตายออกมาปรากฏตัวหลอกหลอนอยู่บ่อย ๆ ฮ่าป่าช้าเวลาเดินผ่านป่าช้าทีก็ต้องพากันคนหัวลุกขึ้นแถว ๆ บ้านเล่าว่าเห็นเป็นร่างของใครไม่รู้มานั่งยอง ๆ อยู่ตรงโกดังเก็บศพ หรือ เห็นเป็นลักษณะเหมือนคนคลุมผ้าห่อศพสีขาวร้อยละต่อมาทางวัดได้มีการปรับปรุงพื้นที่นำโกดังเก็บศพมาใช้เป็นที่เก็บของแท้ความน่ากลัวต่าง ๆ จึงค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาล

โรงงานปากการ้าง

อันดับ 7 โรงงานปากการ้าง

อันดับ 7 โรงงานปากการ้างในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตถนนพัฒนาการเมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำประกาศและเป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 80 ไร่เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้างแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่อาถรรพ์เจ้าที่แรงระหว่างที่ดำเนินกิจการเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งบางก็มีคนตายไม่น้อยหลังจากปิดกิจการไปพวกวัยรุ่นก็มักจะพากันเข้าไปลองของส่วนใหญ่ที่เข้าไปก็มักจะบอกว่าบรรยากาศเย็นยะเยือกผิดปกติบางคนที่เข้าไปก็เจอกับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตในโรงงานทั้งยังมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าจะต้องทำการเคาะแทงค์น้ำทั้ง 3 แทงค์ 3 ครั้งให้ครบหากใครได้เข้ามาลองสถานที่แห่งนี้แล้วไม่ได้ไปขอแทงค์น้ำก็ถือว่ามาลองของไม่สำเร็จ เพราะถ้าคุณเคาะครบทั้ง 3 แทงค์เจ้าที่จะปรากฏกายออกมาทันทีปัจจุบันเหลือเพียงแค่เรื่องเล่าให้คนรุ่นหลัง

บ้านร้างย่านรังสิต

อันดับที่ 6 บ้านร้างย่านรังสิต

อันดับที่ 6 บ้านร้างย่านรังสิต คลอง 13 จากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตรมีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลังแต่ยังเหลือซากที่เป็นตัวบ้านอยู่ส่วนหนึ่งเล่ากันว่ามีผู้หญิงใต้ในกรอบไฟบ้านหลังนี้อยู่ในสวนมะขามหวานแต่ถูกทิ้งให้รกร้างคนในระแวกใกล้เคียงต่างก็ยืนยันว่าตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องโหยหวนออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวบ่อย ๆ บ้างก็บอกว่าเคยมีคนเห็นผีผู้หญิงในบริเวณสร้างบ้านด้วย

ซอย รอดอนันต์

อันดับที่ 5 ซอย รอดอนันต์

อันดับที่ 5  ซอยร อดอนันต์ ถนนสุขาภิบาล 1 เป็นบ้านรักทรงไทยอยู่ริมบึงห่างไกลจากบ้านอื่น ๆ ในระแวกนั้น บริเวณบ้านรกพื้นด้วยต้นไม้คุณยายเจ้าของบ้านเสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ และ น่าจะเชื่อว่าวิญญาณของคุณยายไม่ยอมไปขุดไปเกิดแต่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านจนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมดปล่อยบ้านทิ้งร้าง และ ที่บ้านหลังนี้เล่าลือกันว่าผีดุรักคนอยู่ระแวกใกล้เคียงอยู่ในบริเวณหน้าบ้านเคยมีคนใจกล้าเข้าไปในบ้าน และ ได้ยินเสียงผู้หญิง

อู่รถเมล์เก่า-ซอยสายหยุด

อันดับที่ 4 สุสานรถเมล์เก่า

อันดับที่ 4 สุสานรถเมล์เก่าในซอยสายหยุดที่นี่เคยเป็นอู่รถเมล์ หรือ รถโดยสารประจำทางที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้การไม่ได้รถทุกคันจะอยู่ในสภาพที่คลื่นสนิทผุพังซากรถในแต่ละคันมีประวัติคนตาย 6 ขาร็อคที่ยกให้ที่แห่งนี้เฮี้ยนก็เนื่องจากว่าแทบทุกคืนเวลาที่มีคนผ่านล่าสุดมักจะเจอกับเหตุการณ์แปลก ๆ บ้างเล่าว่าอยู่ดี ๆ ไฟในรถก็เปิดสว่างขึ้นมาเอง หรือ มีคนมายืนโบกรถอยู่หน้าอู่แท็กซี่จะเข้าไปรับผู้ โดยสารพอจอดรับจู่ ๆ ผู้โดยสารก็หายไป หรือ บางครั้งก็มีคนวิ่งตัดหน้ารถ และ หายไปดื้อ ๆ บางรายเห็นเป็นผู้หญิงผมยาวมายืนโบกรถให้ไปส่งที่บ้านบางก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ช่วยบางครั้งเห็นกลุ่มวัยรุ่นนั่งรถ โดยสารตีกลองร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานก็มีแล้วก็มีจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปลองของแล้วก็ได้พบกับเหตุการณ์แปลก ๆ ทำให้ไม่กล้ากลับไปที่นั่นอีกเลย

วัดมหาบุศย์พระโขนง

อันดับที่ 3 วัดมหาบุศย์พระโขนง

อันดับที่ 3 วัดมหาบุศย์พระโขนงที่วัดมหาบุศย์นับเป็นตำนานตลอดกาลในเรื่องของอาถรรพ์ความเพียรอันดับต้น ๆ ที่คนไทยทุกคนต้องนึกถึงที่วัดแห่งนี้ยังมีศาลย่านาคตั้งอยู่สืบเนื่องมาจากตำนานรักของแม่นาคพระโขนงที่รู้กันแพร่หลายว่าเมื่อแม่นาคอาละวาดหลอกหลอนจนชาวบ้านอยู่กันอย่างระแวงเจ้าประคุณสมเด็จโตวัดระฆังได้มานำวิญญาณไปพร้อมกับกระดูกหน้าผากแล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศีลปฏิบัติธรรม และ เรื่องเล่าความเฮี้ยนของที่นี่ยังคงมีอยู่ เพราะที่ศาลย่านาคในช่วงกลางวันที่นี่จะมีผู้คนมาทำบุญ และ ขอพรจากยานาคเป็นจำนวนมาก แต่เพราะความเพี้ยนในอดีตของย่านาคร่วมกับบรรยากาศที่ค่อนข้างวังเวงในตอนกลางคืนบวกกับสายชาร์จที่อยู่ติดกับบริเวณวัดทำให้ที่นี่มีเรื่องเล่าเช่นบริเวณหอระฆังพระหลายรูปเมื่อมาตีราคาที่นี่จะเห็นเปรตตัวสูงใหญ่ยืนอยู่บางคนก็เล่าว่าเมื่อมาขอพรแม่นาคแล้วไม่แก้บนจะพบกับเรื่องไม่ดีมากมายหากอยากฟังเรื่องเต็มของสามารถชมคลิปที่เราเคยเล่าไปแล้วได้นะครับ

บ้านร้างในซอยรามคำแหง 32

อันดับที่ 2 บ้านร้างในซอยรามคำแหง 32

อันดับที่ 2 บ้านร้างในซอยรามคำแหง 32 ลึกเข้าไปจะพบกับบ้านทรงสเปนหลังหนึ่งรูปทรงสวยงามสง่าน่าอยู่แต่บ้านนี้ไม่มีใครอยู่อาศัยนานกว่า 20 ปีแล้วปล่อยให้ทิ้งร้างเก่าทรุดโทรมอย่างน่าใจหายประวัติของบ้านหลังนี้มีว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติจ้างสาวใช้ไม่ทราบสัญชาติมาทำงานที่บ้านต่อมาเจ้าของบ้านต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ 1 สัปดาห์มีสาวใช้อยู่เฝ้าบ้านเพียงคนเดียวคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งคงมาแอบสังเกตการณ์นานพอสมควรได้ฉวยโอกาสเข้าปล้นหวังทรัพย์สินมีค่าแต่สาวใช้เคราะห์ร้ายถูกรุมทำร้ายจนตายคาที่เมื่อเจ้าของบ้านทราบเรื่องก็กลับมาแล้วก็รีบดำเนินการจัดการเรื่องศพจนเป็นที่เรียบร้อยแต่วิญญาณของสาวใช้กลับไม่ยอมไปขุดไปเกิดยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้จนทำให้เจ้าของบ้านอยู่ไม่ได้ต้องย้ายออกไปผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงก็เล่ากันว่ามักจะได้ยินเสียงผู้หญิงหวีดร้องเสียงดังอย่างน่ากลัวบ้านเรายังพบอีกว่าเห็นผู้หญิงยืนจ้องมองออกมาจากภายในบ้านหลังดังกล่าวบางครั้งสาวใช้ก็ปรากฏตัวให้เห็น หรือ เดินไปเดินมาในบริเวณบ้าน หรือ บางครั้งก็ยังเดินมาทำงานอยู่หลังบ้านอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปในบริเวณบ้านหลังนี้อีกเลยปัจจุบันบ้านดังกล่าว โดยถูกทิ้งไปแล้วทิ้งไว้เพียงแค่เรื่องเล่าสุดหลอนเท่านั้น

ผับสยองเอกมัย

อันดับ 1 ผับสยองเอกมัย

อันดับ 1 ผับสยองเอกมัยเหตุการณ์ไฟไหม้ส่งท้ายปี 2551 ที่ซานติก้าผับมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ศพ และ ผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมากเสียงตะโกนไฟไหม้จากสมาชิกวงดนตรีหลังจุดพลุดอกไม้ไฟภายในร้านในช่วงเวลาเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 1 มกราคมพ.ศ 2552 ซึ่งเป็นเหตุให้ประกายไฟของพลุไปติดบนเพดานจนเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วตามกล่าวความแตกตื่นของนักท่องราตรี และ การมีเอาตัวรอดกันอย่างอลหม่านเสียงกรีดร้อง และ โหยหวนเพื่อขอความช่วยเหลือจากเปลวเพลิงที่ทาทองกระหน่ำต่างหนีตายกันอย่างชุลมุนประกอบกับประตูหนีไฟที่ไม่ชัดเจนทางเข้าออกสำหรับหนีไฟไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากได้เรื่องเล่าสุดหล่อณที่แห่งนี้คือพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ยินเสียงเรียกขณะที่ทำงานกะดึก ได้ยินเสียงเรียกขณะที่ทำงานกะดึกพี่ญาพี่ยามหนูอยู่ชั้น 2 พอมองขึ้นไปก็เห็นเป็นหญิงสาวยืนอยู่บริเวณชั้นลอยจึงเดินขึ้นไปดูแต่ก็ไม่พบอะไรด้วยความกลัวจึงรีบกลับลงมาแล้วเล่าให้เพื่อนฟังเมื่อไปดูที่เกิดเหตุในอีกวันหนึ่งก็พบกับกระดูกข้อมือ และ ชิ้นส่วนกระโหลก และ อย่างเราว่ากลางคืนยังมีคนได้ยินเสียงร้องโหยหวน และ ยังมีเสียงของการทรมานเจ็บปวด และ นอกจากนี้ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่ดินเก่าว่ามีอาถรรพ์อีกด้วยยังไงก็แล้วแต่หากจำเป็นที่จะต้องผ่านสถานที่ที่เราเล่าให้ฟัง หรือ สถานที่แปลก ๆ ก็ขอให้อย่าไปลบหลู่ หรือ ท้าทายจะดีที่สุดเราอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างไม่ประมาท และ ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังด้วยนะครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://www.sanook.com/